วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 16

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561

เวลา 08.30 - 11.30 น.

knowledge (ความรู้)

นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร








รางวัลเด็กดี 





นำเสนอ MODLE สถานศึกษา
โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า





โครงการขอจัดตั้งสถานศึกษาระดับปฐมวัย
โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า

หลักการและเหตุผล
ในศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีมีบทบาทส าคัญเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิต ท าให้บุคคลในท้องถิ่นรวมถึง
เด็กปฐมวัยมีพฤติกรรมในการใช้เทคโนโลยีมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจ าวัน เด็กขาดทักษะการใช้ชีวิตและขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ผู้คนหลงลืมวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และโรงเรียนในพื้นที่มีจ านวนน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราจึงจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้าขึ้นเพื่อเป็นสถานศึกษาที่รองรับจำนวนนักเรียนในพื้นที่ให้เพียงพอกับความต้องการและจัดท าหลักสูตรให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง บูรณาการการสอน 6 กิจกรรมหลัก ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย เพื่อพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม ให้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคม

วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ และสถานศึกษาของคนในชุมชน
2. เพื่อพัฒนาเด็กให้เป็นพลเมืองดี
3. เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานในการใช้ชีวิต

ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา
1. ข้อมูลทั่วไป
ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า
ตั้งอยู่เลขที่ 100 /221 หมู่บ้านลานทอง ซอย 10 ถนน ติวานนท์ ตำบล บางพูด อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์10310 
โทรศัพท์ 02 - 3456789
โทรสาร 02 - 3456789
E-mail moonschool@gmail.com website moonschool.co.th
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ


แผนที่โรงเรียน
อาณาเขต ทิศเหนือ วัดและโบราณสถาน
ทิศตะวันออก โรงพยาบาล
ทิศตะวันตก สวนสาธารณะ
ทิศใต้ วัดและแหล่งชุมชน

สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน
ประวัติโดยย่อ คำขวัญ และวัตถุประสงค์เฉพาะของโรงเรียน
 โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 100/221 หมู่บ้านลานทอง ซอย 10 ถ.ติวานนท์ ต.บางพูด
อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 บนที่ดินของนางสาวนรากุล ธรรมชาติ มีเนื้อที่
ประมาณ 10 ไร่ 3 งาน มีโครงการที่จะเปิดท าการสอนในระดับชั้นอนุบาล จ านวน 4 ห้องเรียน คือ
อนุบาล 1อนุบาล 2 และ อนุบาล 3 โดยเปิดท าการสอนในปีการศึกษา 2555 รับสมัครนักเรียนชั้น       อนุบาล 1 คือเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไปโรงเรียนได้ดำเนินการก่อสร้างอาคาร จำนวน 2 หลัง คือ

1.อาคารหลังแรก เป็นอาคารชั้นเดียว มีห้องเรียน 4 ห้อง ประกอบด้วย ห้องธุรการ ชั้น 1 อนุบาล 2
และ อนุบาล 3 
2.อาคารหลังที่สอง โรงอาหาร
3.สระว่ายน้ า
4.สนามเด็กเล่น
5.สนามหญ้า
6.แปลงผัก

ปรัชญาของโรงเรียน
เป็นคนดี มีคุณธรรม นำความรู้

วิสัยทัศน์
 โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า เป็นโรงเรียนมีคุณภาพระดับสากล บนพื้นฐานวัฒนธรรมไทย มีระเบียบวินัยที่
ดีงาม เน้นความรักสามัคคี มีความรู้คู่กับคุณธรรม ตามหลักปรัชญากิจพอเพียง

คติพจน์
อตฺตาน ทมยนฺติ ปณฺฑิตา
บัญฑิตย่อมฝึกตน

ปณิธาน
เสริมสร้างรักษาสิ่งดีงาม พยายามแก้ไขสิ่งบกพร่อง

พันธกิจ
1. สร้างนักเรียนทุกคนให้เป็นเด็กดี มีวินัย มีคุณธรรม
2. สร้างทักษะพื้นฐาน จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนการสอน
3. ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
4. จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติได้เต็มศักยภาพ

ข้อมูลเกี่ยวกับนักเรียน
เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ชั้นอนุบาลปีที่1 ถึงระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3
การศึกษาปฐมวัยจำนวนนักเรียนทั้งหมด 60 คน มีเด็กพิเศษ 2 คน

ข้อมูลครูและบุคลากร
การศึกษาปฐมวัย
สัดส่วนของจ านวนนักเรียน : ครู 60/6
สัดส่วนของจ านวนนักเรียน : ห้อง20/2

ข้อมูลด้านอาคารสถานที




ข้อมูลด้านงบประมาณและทรัพยากร

งบประมาณ (รับ-จ่าย) รายเทอม
     1.รายรับ 
          -ค่าธรรมเนียมการศึกษา                      2,400,000

     2.รายจ่าย 
         -งบดำเนินการเงินเดือน/ค่าจ้าง            900,000
         -พัฒนาการศึกษา                                 400,000
         -งบอื่นๆ                                                500,000

                                                                    รวม 1,800,000

 สภาพชุมชนโดยรวม
1. สภาพชุมชนโดยรอบโรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้ามีลักษณะเป็นชุมชนเมืองมีประชากร
ประมาณ 5,000 คน บริเวณใกล้เคียงโดยรอบโรงเรียนได้แก่ สวนสาธารณะ โรงพยาบาล วัด
โบราณสถาน บ้านเรือนประชาชน โรงเรียน และสถานีตำรวจ

2. อาชีพหลักของชุมชนคือค้าขายเครื่องปั้นดินเผา และของฝากแก่นักท่องเที่ยว ผู้ปกครองส่วนใหญ่
จบการศึกษาระดับ ต่ำกว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 80 ประกอบอาชีพค้าขาย ฐานะทางเศรษฐกิจ /
รายได้โดยเฉลี่ย ต่อครอบครัว ต่อปี 120,000 บาท ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ มีประเพณีสำคัญได้แก่
ประเพณีตักบาตรพระร้อยแปด ประเพณีสงกรานต์ชาวไทยมอญ

3.โอกาสและข้อจำกัดของโรงเรียน
โอกาส
- ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ปกครอง ชุมชน ในการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอน
- โรงเรียนมีประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลายมีผลต่อด้านจิตใจของนักเรียน
นักเรียนมีความรักความภูมิใจในท้องถิ่น
-บริเวณรอบ ๆ โรงเรียนมีการขยายตัวของภาคธุรกิจมีผลต่อการระดมทรัพยากรของโรงเรียน
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่หลากหลายเอื้อต่อการจัดการศึกษา
- เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษามีราคาถูกท าให้จัดหาได้ง่าย

ข้อจำกัด
- โรงเรียนอยู่ติดถนนใหญ่ การสัญจรของประชาชนมีจ านวนมาก เกิดปัญหามลภาวะทางเสียง

โครงสร้างหลักสูตร

หลักสูตรระดับปฐมวัย
ระดับชั้นอนุบาล 1 – อนุบาล 3 (ช่วงอายุ 3 – 6 ปี)


หลักสูตรไฮสโคป (High Scope)
ความเป็นมา
การเรียนการสอนแบบไฮสโคป เป็นแนวคิดการจัดการศึกษาที่พัฒนามาจากโครงการ เพอรี่ พรีสกูล
(Perry Preschool Project) เมืองยิบซีแลนดิ (Ypsilanti) รัฐมิชิแกนประเทศสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1960 โดย
เดวิด ไวคาร์ด (David Weikart) และคณะ เป็นโปรแกรมการศึกษาที่มีหลักสูตรและการสอนเน้นการเรียนรู้โดยใช้หลักการสร้างความรู้ (constructive process) จากการกระท า ที่ต้องมีการร่วมกันคิดร่วมกันทำตามแผนที่กำหนดซึ่งต่อมาได้มีผู้นำรูปแบบการศึกษาของไฮสโคปไปใช้อย่างแพร่หลายกับระดับปฐมวัย
แนวคิดพื้นฐานการสอนแบบไฮสโคป มีพื้นฐานแนวคิดมาจากทฤษฎีของพิอาเจท์ (Piaget’s Theory) ว่าด้วยพัฒนาทางสติปัญญาที่เน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติที่เด็กสามารถสร้างความรู้ได้เองโดยใช้กระบวนการสร้างสรรค์การเรียนรู้ (Constructive process of learning) เด็กจะเรียนรู้จากการกระทำของตน การประเมินผลงานอย่างมีแบบแผน ช่วยให้เด็กเกิดความรู้ขึ้น ด้วยพื้นฐานความเชื่อว่าเด็กเป็นผู้ใฝ่รู้เด็กสามารถสร้างความรู้ได้จากประสบการณ์ที่มีความหมายซึ่งจากแนวคิดนี้ในการเรียนเด็กสามารถเลือกเรียน เลือกปฏิบัติจัดกระทำดำเนินการเรียนรู้และประเมินผลงานของตนเอง การจัดการเรียนการสอนแบบไฮสโคป เน้นการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติตามความสนใจของเด็ก ตามศูนย์การเรียนรู้จะมีวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และพัฒนาการตามวัย จัดไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ เด็กจะได้รับการกระตุ้นจากครูให้คิดนำอุปกรณ์ที่จัดไว้มาจัดกระทำหรือเล่นด้วยการวางแผนการทำงาน แล้วดำเนินตามแผนไว้ตามลำดับพร้อมแก้ปัญหาและทบทวนงานที่ทำด้วยการทำงานร่วมกันกับเพื่อนเป็นกลุ่มเล็กๆ โดยมีครูคอยให้กำลังใจ ถามคำถาม สนับสนุน ให้คำแนะนำและเพิ่มเติมสิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้ ตามแผนที่กำหนด จากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน การสนับสนุนให้เด็กมีความรู้ด้วยการลงมือกระทำด้วยตนเองตามแนวคิดของการจัดการศึกษาแบบไฮสโคป มาจากความเชื่อพื้นฐานดังนี้
1. เด็กสามารถสร้างความรู้ได้จาก การมีส่วนร่วมกระทำกับบุคคล วัสดุอุปกรณ์ เหตุการณ์ และ
ความคิดเนื่องจากเป็นกระบวนการจูงใจภายใน
2.ในขณะที่เด็กกำลังเรียงลำดับความคิดความสามารถในแต่ละขั้นขณะปฏิบัติผู้ใหญ่จะเป็นผู้มีส่วน

แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้

1) วัดคูขุด
2) สวนสาธารณะ
3) โรงพยาบาล
4) สถานีตำรวจ

ปราชญ์ชาวบ้าน/ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สถานศึกษาเชิญมาให้ความรู้แก่ครู นักเรียน ในปีการศึกษาที่รายงาน

     ชื่อ-สกุล นายสำราญ พงศ์วันทอง ให้ความรู้เรื่องขนมไทย สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้ จำนวน2 ครั้ง / ปี
     ชื่อ-สกุล นายสมดุล จุลจัตุรัส ให้ความรู้เรื่องเครื่องปั้นดินเผา สถิติการให้ความรู้ในโรงเรียนแห่งนี้
จำนวน 2 ครั้ง / ปี

ผลงานดีเด่นในรอบปีที่ผ่านมา
- โรงเรียนแกนนำพัฒนาชีวิต
- รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดส้วมสุขสันต์
- โรงเรียนแกนน าโรงเรียนดีศรีจังหวัด
- โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับเพชร
- รางวัลโรงเรียนในฝัน
- เหรียญทองชนะเลิศการแข่งขันศิลปะหัตกรรมดนตรีนาฏศิลป์
- เหรียญทองชนะเลิศการแข่งขัดวาดภาพระบายสี
- เหรียญทองการเล่านิทานการแสดงประกอบสื่อ
- เหรียญทองการปั้นดินน้ำมัน(ปฐมวัย)
- เหรียญทองการสร้างภาพด้วยการ ฉีก ตัด ปะ(ปฐมวัย)
- เหรียญทองการประกวดมารยาทไทย


คำศัพท์ (VOCAB)
Objective >> วัตถุประสงค์
Local knowledge >> ภูมิปัญญาท้องถิ่น
Janjao school >> โรงเรียนอนุบาลจันทร์เจ้า
Outstanding Performance >> ผลงานดีเด่น

Application (การประยุกต์ใช้)
-ได้รู้รูปแบบโครงสร้างการจัดทำสถานศึกษา เป็นพื้นฐานความรู้ที่สามารถในปรับ ปรับและประยุกต์ใช้ได้ในอนาคต

Evaluation(การประเมิน)

Teacher (อาจารย์)
-อาจารย์ให้คำแนะนำเพิ่มเติม ให้รางวัลเด็กดีและให้กำลังใจในการทำงาน

Self(ตนเอง)
-มาเรียนตรงเวลา เตรียมตัวในการนำเสนองาน และช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่ม

Friends (เพื่อน)
-ไม่ส่งเสียงดัง ตั้งใจเรียน มีความคิดที่หลากหลาย มีการออกแบบที่สร้างสรรค์

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 15

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561

เวลา 08.30 - 11.30 น.

knowledge (ความรู้)

นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหาร








คำศัพท์ (VOCAB)
Practice>> การฝึก
Learning>> การเรียนรู้
Success >>ความสำเร็จ
Pretext >> ข้ออ้าง

Application (การประยุกต์ใช้)
-สามารถนำไปปรับใช้ในการใช้ชีวิต หรือ การเป็นบทบาทหน้าที่ครูในการสอนเด็กและส่งเสริมคุณธรรมให้แก่เด็ก เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก

Evaluation(การประเมิน)

Teacher (อาจารย์)
-อาจารย์ให้ข้อคิดคุณธรรมจากคำคม 

Self(ตนเอง)
-มาเรียนตรงเวลา นำเสนอคำคม

Friends (เพื่อน)
-ไม่ส่งเสียงดัง ตั้งใจเรียน

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 14

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

เวลา 08.30 - 11.30 น.


วันหยุดวันสงกรานต์

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 13

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

เวลา 08.30 - 11.30 น.

knowledge (ความรู้)


นำเสนอคำคมเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษา









แนวทางการจัดสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย











กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร




ความหมายการนิเทศ



จุดมุ่งหมายของการนิเทศ



เนื้อหาสาระในการนิเทศ



กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตร
ความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการด้านวิชาการในการปฏิรูปการเรียนรู้นั้น ทุกคน   ทุกฝ่ายนับเป็นองค์ประกอบสำคัญ การเป็นเพื่อนร่วมทางที่จะเดินไป ด้วยกัน อย่างไว้ใจและเชื่อว่าจะชี้แนะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ให้ก้าวไปในทางที่ถูกต้องด้วยน้ำใจมิใช่อำนาจ คือ หนทางแห่งกัลยาณมิตร นักวิชาการ นิเทศ ได้กล่าวเกี่ยวกับการนิเทศที่คำนึงถึงฐานวัฒนธรรมไทยว่า     
- ความเป็นกัลยาณมิตรเป็นกุญแจทองที่จะไขเปิดประตูแห่งความเป็นมิตร          
- ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยังเป็นคุณสมบัติที่คนไทยทุกคนยอมรับ           
- ความจริงใจเป็นเครื่องหล่อลื่นสัมพันธภาพ         
- ความมีน้ำใจ เป็นหยดทิพย์ที่ทำให้จิตใจชุ่มชื่นบาน          
- การใช้คำพูดที่สุภาพ จริงใจสม่ำเสมอเป็นเครื่องส่งเสริมความรู้สึกที่ดีต่อกัน 

กัลยาณมิตร ๗ ประการในการนิเทศ 
1. ปิโย - น่ารัก สบายใจ สนิทสนม ชวนให้อยากปรึกษา     
2. ครุ - น่าเคารพ ประพฤติสมควรแก่ฐานะ อบอุ่น เป็นที่พึ่งปลอดภัย          
3. ภาวนีโย - น่ายกย่อง / ทรงคุณความรู้ /ภูมิปัญญาแท้จริง และหมั่นปรับปรุงตนอยู่เสมอ           
4. อตตา จ - รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ รู้ว่าควรพูดอะไร อย่างไร เป็นที่ปรึกษาที่ดี         
5. วจนก ขโม - อดทนต่อถ้อยคำ พร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษา / คำถามคำวิพากษ์วิจารณ์        
6. คมภีรญจ กถ กตตา - แถลงเรื่องลึกล้ำได้ อธิบายเรื่องที่ยากให้ง่ายได้          
7. โน จฏฐาเน นิโยชเน - ไม่แนะนำเรื่องเหลวไหล แนะไปในทางเสื่อม 

องค์ประกอบของกัลยาณมิตร 
1. ให้ใจ - การปฐมนิเทศสร้างความเข้าใจร่วมกัน           
2. ร่วมใจ - การร่วมคิด ร่วมทำงาน แลกเปลี่ยนรู้ซึ่งกันและกัน          
3. ตั้งใจ - เป็นการร่วมกันสร้างสรรค์คุณภาพในการทำงาน  
              + มุ่งมั่นสู่เป้าหมายร่วมกัน 
              + ช่วยกันแก้ปัญหา                     
              + ถือว่าผลงานคือคุณภาพของผู้เรียน          
4. เปิดใจ - การวัดและประเมินตนเอง ประเมินผลงาน                        
               + ประเมินผลการพัฒนาการอย่างเที่ยงตรง                       
               + ปราศจากอคติ

กระบวนการกัลยาณมิตร 
1. ไม่มุ่งเน้นปริมาณ - เน้นความชัดเจนของขั้นตอน วิธีการ 
2. สานพลังอาสา - เริ่มที่ศรัทธา / อาสาสมัคร / ไม่ใช่การสั่งการ          
 3. เสวนาร่วมกัน - ใช้อปริหานิยธรรม ๗                   
     + หมั่นประชุมเป็นเนืองนิตย์                    
     + พร้อมเพรียงทำกิจที่พึงทำ                       
     + ปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้/สิ่งใดดีอยู่รู้รักษา                       
     + ศรัทธา ยอมรับนับถือกันและกัน 
     + ไม่บังคับ /ไม่ห้ำหั่น /ลุแก่อำนาจบังคับบัญชา                      
     + พัฒนาไปตามสภาพจริงของสถานศึกษาที่เป็นเรื่องชัดแจ้ง                                     
    + คุ้มครองเสริมแรง ห้ำกลังใจ         
4. สร้างสรรค์ความเป็นมิตร - ชักชวนให้ร่วมกันพัฒนา           
5. ฝึกคิดมุ่งมั่น - มีความเพียร อดทน รู้จักใช้เหตุผล           
6. ทุกวันปฏิบัติ - ทำอย่างต่อเนื่อง         
7. จัดทำบันทึกแนวทาง - รู้จักสังเกตแล้วบันทึก 

ปัจจัยเกื้อหนุน ๔ ประการ
1. องค์ความรู้          
2. แรงหนุนจากต้นสังกัด          
3. ผู้บริหารทุกระดับ          
4. บุคลากรทั้งสถานศึกษา 

บทบาทของผู้บริหารในการนิเทศ
-กระบวนกัลยาณมิตร เป็นการปฏิบัติจริงในสภาพที่เป็นจริง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศต้องมีการปรึกษาหารือ ติดต่อสื่อสาร เยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ช่วยแก้ปัญหาและให้กำลังใจกัน  
-ถ้าจะเปรียบผู้นิเทศก็เป็นเหมือนครูฝึก ( coach ) ของผู้สอน ที่จะต้องโดดลงไปร่วมคิดร่วมทำ มิใช่เพียงร้องบอกให้ผู้สอนลองผิด ลองถูก ตาม ยถากรรม อาจต้องบอกวิธีให้รู้ สาธิตให้ดุ และช่วยแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ 
-การพบปะสนทนาเมื่อเวลานิเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ครู ศึกษานิเทศก์ กรรมการศึกษา ชุมชนรอบๆสถานศึกษา จะได้ทราบทุกข์ สุข และก่อให้ เกิดความเข้าใจในปัญหาพื้นฐาน เพื่อกำหนดจุดมุ่งหมายในการทำงานต่อไป 


“ คลินิกครู ” มีความจำเป็นสำหรับสถานศึกษา โดยจัดช่วงเวลาที่ครูสมารถมาพบในลักษณะกลุ่มสนใจ หรือตามประเด็นปัญหาที่มีผู้นิเทศสนทนา ให้คำแนะนำ โดยเตรียมข้อมูลเพื่อพบปะสนทนากันใน “ คลินิก ” การเข้าใช้บริการ   “ คลินิกครู ” อาจมีลักษณะเป็นรายบุคคล เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มย่อย ตามความสมัครใจ ครูที่เข้าพบเป็นผู้เปิดประเด็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุ่งสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรใน โรงเรียนโดยผู้บริหารต้องเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยมีโครงการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อปรับปรุงพัฒนา ซึ่งผู้บริหารอาจจัดระบบนิเทศ
เป็น 3 ลักษณะ คือ     
     
1. นิเทศการจัดบรรยากาศห้องเรียน          
2. นิเทศการจัดการเรียนการสอน        
3. การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันของครู

 หลักประการสำคัญของกัลยาณมิตรนิเทศ คือเข้าใจวัฒนธรรมการคิดและ การทำการคิดและการทำงานของครู ผู้นิเทศย่อมตระหนักดีว่าครูทำงานหนักและ จำเจ เดิมๆ ซ้ำๆ หากมีใครสักคนเข้ามาดูงานของเขา อาจทำให้เขาเครียด เกร็ง ระมัดระวัง และรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ ธรรมดา เพราะเขาคิดว่าต้องมีภาระเพิ่มขึ้น  การทำงานหนักขึ้นและอาจเกิดการต่อต้าน ผู้นิเทศจึงจำเป็นต้องเริ่มงานด้วยความสัมพันธ์ที่ดี ให้ครูรู้สึกไว้วางใจ พร้อมกับนำกระบวนการนิเทศสอดแทรกกลมกลืนเข้าไปกับภาระงานปกติของครู การเยี่ยมเยียน การติดต่อสื่อสารกับครูควรหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจของการตรวจสอบ หรือพิพากษาว่าใครถูก ใครผิด แต่ควรเป็นการให้กำลังใจ ใช้วิธีการพูดทางบวก มีการแลกเปลี่ยนความคิด และปรึกษาหารือให้ครูรู้จักสบายใจ 

แนวทางการนิเทศ
 1. สร้างความสัมพันธ์ แจ้งภารกิจและความมุ่งหมาย จัดเวลา กำหนดวิธีการทำงาน     
2. จัดนิทรรศการทางวิชาการและสาธิตรูปแบบการสอน    
3. แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง จัดบริการเอกสารทางวิชาการ   
4. วางแผนร่วมกัน เพื่อศึกษาดูงาน   
5. แนะให้ปฏิบัติตามสภาพจริง    
6. พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลการปฏิบัติ และหาทางแก้ไขปรับปรุง    
7. เข้าร่วมประชุม สัมมนา การฝึกอบรมตามโอกาส     
8. นำเสนอผลงานในการประชุมปฏิบัติการ 
 9. วัดและประเมินผลงานกัลยาณมิตรนิทศ 

สรุปประเด็นสำคัญ
หลักการสำคัญ พึงตระหนักว่าการนิเทศนั้นมิใช่การสั่งการ ตรวจสอบ บังคับบัญชา มิใช่การนิเทศกระดาษ แต่เป็นการนิเทศคน กระดาษ เป็นแผนการสอน คะแนนผลสัมฤทธิ์ หรือโครงการ เป็นองค์ประกอบที่แสดงร่องรอยการเรียนรู้ส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่สุด      ผู้นิเทศต้องนิเทศคน พูดคุยกับครู ดูพฤติกรรมของนักเรียน สังเกตบรรยากาศและความสัมพันธ์ในสังคมเรียนรู้นั้นเพื่อเข้าถึงสถานภาพและปัญหา นำไปสู่แนวทางการนิเทศที่ถูกต้อง สรุปเป็นบทร้อยกรองว่า 

ไม่ตั้งตนเป็นคนเหนือคนอื่น ควรหยิบยื่นสิ่งดีดีมีมอบให้                
เสนอแนะให้ขวัญกำลังใจ แสดงว่าจริงใจไม่ทิ้งกัน                 
ฟังข้อมูลหนุนให้ทำนำให้คิด ชี้ถูกผิด แนะทางอย่างสร้างสรรค์                
นำเทคนิคพลิกแพลงมาแบ่งปัน เป็นเพื่อนขวัญบนเส้นทางย่างก้าวเดิน 



คำศัพท์ (VOCAB)
Be merciful >> กัลยาณมิตร
Supervision >> การนิเทศ
Evaluation >>การประเมิน
Operation >> การปฏิบัติการ
develop >> การพัฒนา


Application (การประยุกต์ใช้)
-นำไปประยุกต์ใช้ในการสอนได้ ในการสร้างกัลยาณมิตรที่ดี 

Evaluation(การประเมิน)

Teacher (อาจารย์)
-ให้ความรู้ชัดเจน อธิบายเนื้อหาเพิ่มเติม

Self(ตนเอง)
-มาเรียนตรงเวลา จดบันทึกเพิ่มเติม

Friends (เพื่อน)
-ไม่ส่งเสียงดัง ตั้งใจเรียน